
การแสดงใดๆ กับทางบริษัทสหมงคลฟิล์มฯ อีกต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านั้น บอสใหญ่ค่ายใบโพธิ์เพิ่งจะแถลงข่าวแสดงความยินดีที่จาโกอินเตอร์ ได้ไปร่วมแสดงภาพยนตร์แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ Fast & Furious 7 แม้ว่าจะไม่ได้มีการแจ้งกับบริษัท
ล่วงหน้ามาก่อนก็ตาม งานนี้ทำเอาผู้อำนวยการสร้างหนังรุ่นใหญ่ถึงกับฉุนขาด ประกาศขู่ฟ้องหากพระเอกนักบู๊อดีตลูกรักจะยังดันทุรังเล่นหนังฮอลลีวู้ด หรือหนังเรื่องอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากต้นสังกัดก่อน
บู๊ได้ แม้ว่าจะต้องการให้เจ้าตัวเข้ามาเจรจาไขข้อข้องใจกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวก็ตาม
เดือนมกราคมที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดข่าวคราวพ่อจาบุกกองถ่ายตามให้ลูกชายกลับบ้าน นอกจากนี้ จายังไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าตัวรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าจาไม่ใช่
คนดูแลเงินแต่จะมีคนใกล้ชิดดูแลให้อีกที
เรื่องเงินส่งเสียเลี้ยงดูเขาก็ไม่ได้ส่งให้ที่บ้านตั้งแต่มีปัญหามาแล้ว ก็ไม่ทราบว่าจาเขาทราบหรือเปล่า เพราะว่าคนที่ดูแลเงินไม่ใช่จา แต่จะมีอีกคนที่ควบคุมดูแลตรงนี้อยู่ แต่เรื่องเงินนี้ไม่ใช่ปัญหา ยังได้พี่น้องคนอื่นๆ ช่วยดูแลพ่อแม่ในเรื่องนี้
ซึ่งเรื่องเงินทองทางบ้านเขาไม่มีความเดือดร้อนในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่คงเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า คุณพ่อก็ยังป่วยทรุดลงตลอด กับเรื่องปัญหาของจากับทางสหมงคลฟิล์มฯ เขาก็คงทราบแล้ว ซึ่งเรื่องนี้คงไม่มีใครสบายใจหรอกครับ ก็
อยากให้แก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ถูกต้อง'' น้องเขยจากล่าว
ในแง่ดีแต่มันก็ยิ่งหนักขึ้นทุกวัน มันผิดปกติถึงขั้นที่พ่อต้องไปแจ้งความคงไม่ธรรมดาแล้ว และมันก็ไม่น่ามีปัญหากันขนาดนี้ที่บานปลายไปจนถึงขั้นมีปัญหากับบริษัท เพราะผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสในการทำงานมาโดยตลอด อย่างก่อนหน้านี้ทาง
ครอบครัวก็โดนกระแสโจมตีเรื่องเงินว่าอยากได้เงินทองของจา ซึ่งมันไม่จริงเลย พอมันมีอย่างนี้เราก็ไม่อยากพูด จนสุดท้ายมันก็เป็นอย่างนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าทางครอบครัวก็ห่วงภาพลักษณ์ของจาในตอนนี้ที่สังคมคงมองว่ามันไม่ดีไปแล้ว เรา
เองก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าเกิดจากอะไร ก่อนหน้านี้ทางบ้านก็พยายามกันสุดความสามารถแล้วให้จากลับมาเป็นคนเดิม ผมว่าถ้าจะแก้มันต้องแก้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น แต่ปล่อยมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง การที่จาได้ไปเล่นหนังต่างประเทศทุก
คนก็ยินดี แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวของจาเอง อย่างเรื่องจะแต่งงาน จะรักกับใคร ทางบ้านก็ไม่เคยห้าม คุณพ่อไม่เคยว่าอะไรเลย แต่ขอเพียงแค่ว่าให้ทุกอย่างมันถูกต้องแค่นั้นเอง''
ปรัชญา ปิ่นแก้ว ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 โดยมีใจความว่า
กฎหมายไว้ หากปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของทางบริษัท'' ทั้งนี้ จดหมายฉบับดังกล่าวได้มีการลงลายเซ็นของ ''จา-พนม'' ไว้อย่างชัดเจน
การจะต่อสัญญาออกไปอีก 10 ปี โดยทางครอบครัวได้ทำการเซ็นรับเอกสารฉบับดังกล่าวไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบว่าเป็นเรื่องของสัญญาทางบ้านก็พยายามติดต่อจาให้กลับมาตัดสินใจต่อสัญญาฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่คนในครอบครัวก็ไม่ได้มีการเซ็นหรือส่งสัญญาฉบับนั้นกลับไป จนกระทั่งมาเกิดข่าวคราวของจากับสหมงคลฟิล์มฯ จึงสร้างความไม่สบายใจให้กับคนในบ้านเป็นอย่างมาก
เรื่องสัญญานั้นตนไม่ขอพูดถึง
ขอบคุณเนื้อหาข่าวและรูปภาพจาก http://www.siamdara.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น