
"บทบาทคน ดั่งตัวละคร จึงยอกย้อนด้วยกรรมเชื่อมโยง ใหญ่แค่ไหน ก็เล็กกว่าโลง แล้วจบลงที่เชิงตะกอน ก็ดวงคน เวียนวนคืนวัน ความเปลี่ยนผัน คือความแน่นอน เมื่อวานนี้มีคนไหว้วอน วันนี้ย้อนลงจมวังวน เสียงสายัณห์ สัญญาลอยล่อง สู่หอห้อง พี่น้องไทย ทั่วแห่งหน จากใจนักเพลงคนจน ปลอบผู้คนมานานเหลือหลาย เมื่อละคร มีอันเลิกรา ดาวเด่นฟ้า ร่วงเป็นกรวดทราย ฝากเพลงนี้ให้ลอยล่องไป เพลงสุดท้ายจากใจสายัณห์"
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเหมือนเช่นเนื้อเพลง "เพลงสุดท้าย" ที่ "ครูชลธี ธารทอง" แต่งขึ้นหัวงมอบให้สายัณห์ สัญญา ลูกศิษย์เอก เป็นผู้ขับร้อง ในงานคอนเสิร์ตวัน "อำลาขวัญใจคนเดิม" เมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 56 แต่สายัณห์ ไม่สามารถร้องเองได้ ครูชลธี จึงมอบให้ "วันชนะ เกิดดี" เป็นผู้ขับร้องแทน
กาารเสียชีวิตของ "สายัณห์ สัญญา" นักร้องขวัญใจคนเดิม เมื่อช่วงเที่ยงกว่าๆของวันที่ 11 ก.ย. 56 สร้างความสะเทือนใจให้ภรรยา ลูกสาว และคนในครอบครัว บุคลลในวงการเพลงลูกทุ่ง รวมถึงแฟนเพลงเป็นอย่างมาก
กว่า 40 ปีที่ผ่านมา "พี่เป้า" สายัณห์ สัญญา ร้องเพลงมอบความสุขรับใช้แฟนเพลงทั่วสารทิศ โดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย พอรู้ข่าวลูกทุ่งขวัญใจล้มป่วย จนกระทั่งเสียชีวิตจึงไม่แปลกใจ ที่ทุกคนจะเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของเขา
"ครูชลธี ธารทอง'' ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ปี พ.ศ. 2542 และเป็นผู้ปลุกปั้น "สายัณห์ สัญญา" จากเด็กปั้มกลายมาเป็นขุนพลเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ด้วยการมอบเพลง "ลูกสาวผู้การ" และ "แหม่มปลาร้า" ให้ร้องบันทึกแผ่นเสียง ซึ่งเดิมที่ตั้งใจแต่งไว้ให้ "ศรคีรี ศรีประจวบ" ขับร้องแต่นักร้องลูกทุ่งชื่อดังในอดีตประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน เผยความรู้สึกว่า การสูญเสียสายัณห์ คือการสูญเสียเพชรเม็ดงามของวงการเพลงลูกทุ่งไทย
"ผมรู้สึกเสียใจมากพอรู้ข่าวว่าเป้าเสียแล้ว ผมเสียเด็กปั้นเด็กที่สร้างมากับมือ สองคนติดต่อกัน และก็เป็นโรคเดียวกัน ไม่อยากเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผม ผมรู้สึกว่าผมโชคร้ายจริงๆ สะเทือนความรู้สึกนะ ทำไมมัจจุราชมาเอาชีวิตลูกศิษย์ทั้งสองคนของผมไปแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับความจริง ตอนนี้ก็ได้แต่อาลัยกับการจากไปของสายัณห์ สัญญา ภาวนาให้เขาไปดี เขาหมดเวลาอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ก็ขอให้เขาไปสู่สุขติ ขอบคุณที่เขามอบความสุขพวกเรา และแฟนเพลงมานานกว่า 40 ปี ไม่รู้ว่าจะมีเพชรเม็ดงามแบบนี้เกิดขึ้นมาได้อีกหรือไม่ หรือจะไปหาที่ไหนได้อีก"
เช่นเดียวกับ "แม่ผ่อง" ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ปี พ.ศ. 2535 อดีตหัวหน้าวงดนตรีผ่องศรี วรนุช ซึ่งเคยรับ "สายัณห์ สัญญา" เปิดใจทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของ สายัณห์ สัญญา ถือเป็นความสูญเสียที่รวดเร็วเกินไปของวงการลูกทุ่ง
"แม่ไม่รู้จะพูดยังไง พูดไม่ถูกได้นั่งร้องไห้ พอได้ยินข่าวว่าเป้าเขาเสียชีวิตแล้ว สำหรับแม่การเสียชีวิตขอเป้ามันเร็วเกินไป ไม่อยากให้เขาเสียเร็วขนาดนี้ ที่ผ่านมาเขาเป็นนักร้องอันเป็นที่รักของแฟนเพลงลูกทุ่ง ควรจะอยู่อีกนานๆ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องเราห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ แม่เจอเขาล่าสุดตอนที่เขาไปขึ้นคอนเสิร์ตอำลาขวัญใจคนเดิมที่พระประแดง นั่นคือการพูดคุยกันครั้งสุดท้ายระหว่างแม่กับเขา เขาก็พูดกับแม่ว่า ผมยังไม่เป็นไรง่ายๆ หรอก ไม่ต้องร้องไห้ ทำไมเวลาใครเห็นผมแล้วต้องร้องไห้ ผมไม่อยากเห็นใครร้องไห้ วันนี้ถ้าเขารับรู้ได้แม่ก็อยากบอกเขาว่าหลับให้สบายนะลูก ลูกมอบความสุขให้กับคนอื่นมายาวนานแล้วพักผ่อนให้สบายไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว"
ด้าน "ณพนรรจ์ ขวัญประภา" นักร้องนัยน์ตาฝันนักประพันธ์นัยน์ตาเศร้า 1 ในสมาชิกนักร้อง 7 พลังหนุ่ม ของวงดนตรี สายัณห์ สัญญา ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในอดีต และเป็นผู้แต่งเพลง ''ขวัญใจคนเดิม'' ให้สายัณห์ขับร้อง เผยความรู้สึกทั้งน้ำตาเช่นเดียวกันว่า เสียใจกับการจากไปของเพื่อนรัก ขอให้หลับให้สบายไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
"ผมเป็นเพื่อนรักของสายัณห์ สัญญา มายาวนานกว่า 40 ปี วันนี้ (11ก.ย. 56) เป็นวันสุดท้ายของเขาบนโลกใบนี้ เมื่อเขาสิ้นลมไปแล้วเราก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมขออนุโมทนาสาธุให้สายัณห์ สัญญา ไปอยู่บนสรวงสวรรค์ อยู่ในภพหน้าที่มีความสุข ในชีวิตผมนี่เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ในวงการเพลงมีนักร้องลูกทุ่งเยอะแต่สายัณห์ดังกว่าคนอื่น เขาเป็นคนที่ดังที่สุดเมื่อสิ้นยุคของครูสุรพล สมบัติเจริญ บ้านนอกในกรุง บ้านทุ่งแดนไกล ประทับใจเขาหมด"
ส่วน "สมบัติ เมืองอุบล" สมาชิกนักร้อง 7 พลังหนุ่มของวงดนตรีสายัณห์ สัญญา อีกคน ร่ำไห้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า เสียใจมากกับการจากไปของอดีตหัวหน้าวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร แม้แตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยากจะทำใจ
"ความรู้สึกของผมวันนี้ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันพูดอะไรไม่ออกเสียใจมาก เตรียมใจรับกับเรื่องนี้มานานพอสมควรแต่ก็ยากจะทำใจ เป็นความสูญเสียในชีวิตที่ยิ่งใหญ่มากๆ ผมกับเป้าเราไม่พูดกันหลายวัน มาเยี่ยมทุกวันแต่เขาไม่พูดกับใคร เขาพูดไม่ได้มองตากันรับรู้กันดวงใจอย่างเดียว ก็อยากบอกเขาว่าไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว เขาเคยพูดบ่อยว่าห่วงลูกๆ ก็อยากบอกเขาว่าไม่ต้องห่วงแล้วนะ หลับให้สบาย คอนเสิร์ตทั้งหมดจากนี้ไปคงไม่มีแล้ว ทุกอย่างยุติหมด ทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่วัดไร่ขิง เขาเป็นนักร้องที่ยิ่งใหญ่ โด่งดังมายาวนานเป็นเวลานับสิบๆ ปี เขายิ่งใหญ่จริงๆ ในยุคของสายัณห์ ซึ่งเป็นยุคหลังจากครูสุพรล สมบัติเจริญ จนถึงยุคปัจจุบันนี้เราคงไม่เห็นใครเกรียไกรได้เท่าสายัณห์ สัญญา นักร้องรุ่นหลังที่เราพยายามค้นหาก็ไม่มีใครสามารถทัดเทียมเขา และคงเป็นเรื่องที่ยาก"
เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ ''หม่ำ จ๊กมก'' นักแสดงตลกชื่อดังซึ่งเคยบริจาคเงิน 1 แสนบาทช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาล "พี่เป้า" สายัณห์ สัญญา" เมื่อครั้งไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจที่นักร้องลูกทุ่งมากความสามารถจากโลกนี้ไปแล้ว เป็นความสูญเสียของวงการลูกทุ่งที่ยิ่งใหญ่ และเชื่อว่าแฟนเพลงทุกคนมีความรู้สึกเช่นเดียวกับตน
"ผมติดตามตำนานลูกทุ่งคนนี้มานาน ถึงขนาดขึ้นแค่อินโทรเพลงไม่ต้องบอกว่าชื่อเพลงอะไรตนก็สามารถร้องได้ทันที ตน ครั้งนี้เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการลูกทุ่งจริงๆ"
นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งทำเพลงให้พี่เป้าเป็นอัลบั้ม หวังรายได้จากการขายแผ่น และดาวน์โหลดมอบให้ครอบครัวนักร้องชื่อดัง เปิดเผยว่า พอทราบข่าวการเสียชีวิตของ "พี่เป้า-สายัณห์" ตนน้ำตาไหลทันที เพราะความเสียใจ
"รู้ข่าวผมน้ำตาไหลเลยครับ วันที่ 14 ก.ย. นี้ ผมจะร่วมกับมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ เป็นเจ้าภาพพิธีสวดอภิธรรมศพพี่เป้า ผมเป็นแฟนเพลงพี่เป้ามาตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ พี้เป้าเป็นนักร้องคนแรกที่ผมนำเพลงมาร้อง มีเพลงไก่จ๋า, เสียความรู้สึก ที่ผมประทับใจมาก ตอนที่พี่เป้าดั่งผมไม่เคยไปดูคอนเสิร์ตนะครับ แต่ก็รู้ได้ว่าพี่เป้าคือนักร้องโด่งดังมาก ก็รู้สึกดีอยู่นิดนึงตรงที่เมื่อ2 วันก่อนผมได้ไปเยี่ยมพี่เป้าก่อนที่ท่านจะเสีย และเอาอัลบั้มเพลงที่ทำเสร็จแล้วไปมอบให้พี่เขา ดีจใจนิดนึงที่ได้เห็นแกตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ หวังว่าอัลบั้มเพลงที่ทำจะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวของพี่เขาไม่มากก็น้อย ตอนนี้อัลบั้มยังติดอยู่เรื่องเดียวคือลิขสิทธิ์เพลงเสียความรู้สึก ค่ายเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์ยังไม่อนุญาติ"
ขอบคุณเนื้อหาข่าวและรูปภาพจาก http://www.siamdara.com/home/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น