พ่อ''น้ำหวาน''ร่อนจ.ม.แจงปัดขู่ฆ่า-ไม่รู้จัก''กันต์''

''กันต์ กันตถาวร'' พร้อมด้วย เจษฎา นิรมิตวิจิตร และหุ้นส่วน บ.สกิน บุฟเฟ่ต์ จำกัด แถลงข่าว กรณีหุ้นส่วนถูกพ่อไฮโซน้ำหวาน ขู่เอาชีวิต เหตุขอเงินคืนจากการถอนหุ้น แจงหุ้นเป็นชื่อไฮโซน้ำหวาน หากอยากได้เงินคืนก็ต้องนำไปขาย เอง รับแจ้งความแล้ว พร้อมขอกำลังตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย ดาราหนุ่มกันต์ เผยที่ ''ไฮโซน้ำหวาน'' ถอนหุ้นไม่เกี่ยวกับการที่ตนรู้จักกับ ''หนิง-ปณิตา'' แต่อย่างใด ด้านพ่อไฮโซดังร่อนจม.ชี้แจงปัดข่มขู่ใคร เผยลูกสาวถอนหุ้นไป แล้วแต่ยังไม่ได้รับเงิน ยันไม่เคยรู้จักพระเอกหนุ่ม ''กันต์'' เป็นการส่วนตัวทั้งสิ้น!
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 ก.ย. 2556 ที่ชั้น 25 อาคารวานิส ดาราหนุ่ม ''กันต์ กันตถาวร'' พร้อมด้วย เจษฎา นิรมิตวิจิตร และหุ้นส่วน บริษัท สกิน บุฟเฟ่ต์ จำกัด อีกจำนวนหนึ่ง ที่ร่วมกันดำเนินธุรกิจเปิดให้บริการด้านความสวยความ
งามผิวหน้าและร่างกาย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีที่ น.ส.วรพรรณ พันธิ์คงชื่น เพชรนันทวงศ์ (หรือไฮโซน้ำหวาน ที่เคยตกเป็นข่าวมือที่สามกับ ''หนิง-ปณิตา'') ที่ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวน 20 หุ้น คิดเป็นเงิน 3 ล้านบาท แต่ต่อมา
ทางด้านของไฮโซน้ำหวาน ทราบมาว่าคลินิกยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ และเกิดข้อสงสัยในการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เมื่อขอตรวจสอบว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือที่ดี จึงเกรงว่าจะเสียชื่อเสียง และมีความ
ประสงค์จะขอขายหุ้นที่มีอยู่เพื่อขอเงินคืน และได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ โดย เจษฎา นิรมิตวิจิตร ผู้ถือหุ้นใหญ่รับปากว่าจะคืนเงินให้แต่เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนก็ไม่ได้รับเงินคืนแค่อย่างใด จนเป็นข่าวว่าทางด้านบิดาของไฮโซน้ำหวาน
เกิดความขัดเคืองใจได้ทวงเงินคืนและขู่ฆ่า กันต์ กันตถาวร พร้อมด้วย เจษฎา นิรมิตวิจิตร และหุ้นส่วน จนเป็นข่าวในขณะนี้
ซึ่งการแถลงข่าวนายเจษฎา หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นบุคคลที่ถูกขู่ฆ่า เผยว่า ตนได้ทำการโอนหุ้นให้กับไฮโซน้ำหวานไปแล้วอย่างถูกต้อง ซึ่งคู่กรณีก็รับรู้และยินยอม อีกทั้งระหว่างการดำเนินการต้องมีการซื้ออุปกรณ์และตกแต่งเพิ่ม
เติมจึงต้องให้หุ้นส่วนแต่ละคนเพิ่มเงินอีก แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินจากน้ำหวานเลย ซึ่งหากคู่กรณีต้องการเงินคืนก็ต้องนำหุ้นไปขายเองเพราะเป็นชื่อเจ้าตัว ในส่วนที่โดนขู่เอาชีวิตนั้นก็เป็นเรื่องจริง
''สืบเนื่องจากวันที่ 21 พ.ค. 56 ทางน้ำหวานและคุณแม่ได้มาขอซื้อหุ้นกับผมจำนวน 20% และผมก็ได้ขายหุ้นให้กับน้ำหวานในราคา 3 ล้านบาท ซึ่งคุณน้ำหวานได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ตอนที่น้ำหวานมาขอซื้อหุ้นคุณแม่และน้ำหวานได้เข้า
มาดูพื้นที่และทำเลแล้ว และผมได้โอนหุ้นให้เรียบร้อยแล้วตามเอกสารแนบมา ซึ่งทางคุณน้ำหวานและคุณแม่ได้รับทราบและยินยอม รวมทั้งน้ำหวานบรรลุนิติภาวะแล้ว''
''แต่หลังจากที่โอนหุ้นแล้ว ทาง สกิน บุฟเฟ่ต์ ต้องซื้ออุปกรณ์เพื่อเข้าคลินิกเพิ่มเติม รวมทั้งอุปกรณ์ตกแต่งซึ่งผู้ถือหุ้นทุกคนต้องร่วมกันชำระ จำนวน 20 ล้านบาท ตามจำนวนหุ้นที่ถือครอง คิดในส่วนของน้ำหวานหุ้น 20% เป็นเงิน 4
ล้านบาท ซึ่งทางน้ำหวานไม่เคยชำระเลย มีเพียงโคมไฟ 1 ดวง กับรูปภาพ 1 ภาพ ที่นำมาตกแต่ง มูลค่าคิดเป็นเงินไม่น่าเกิน 3 หมื่นบาท หลังจากนั้นทางคุณน้ำหวานก็ไม่ได้เข้ามาที่บริษัทอีกเลย ทางบริษัทได้ทำหนังสือสอบถามแต่ก็เงียบ ซึ่ง
คุณพ่อของคุณน้ำหวานได้ติดต่อมาเอง ได้มีการบอกให้กรรมการขายหุ้นและขอเงินคืน 3 ล้านบาท ทางเราก็ทำให้ไม่ได้ เพราะชื่อหุ้นเป็นชื่อน้ำหวานต้องให้เขาขายเอง ซึ่งหลังจากที่บอกเหตุผลไปกับทางคุณพ่อของน้ำหวานแล้วนั้น ท่านอาจ
จะบันดาลโทสะ ข่มขู่ทำร้าย โทร.มาขอเงินคืน เพราะไม่สามารถลงทุนได้ ไม่ทำแล้ว จะขอเงินคืน เป็นคำพูดที่หยาบ ''ถ้ามึงไม่เอามาพรุ่งนี้มึงจะมีชีวิตอยู่ไหม'' สร้างความวิตกกังวลกับพวกเราทุกคน เราจำเป็นจะให้ทางตำรวจกองปราบมาคุ้ม
กันความปลอดภัย ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้ว และก็ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเรามีหลักฐานแน่น เรามั่นใจว่าเป็นคุณพ่อเค้าแน่นอน''
กันต์ เผยว่า ตนเองไม่ได้ถูกขู่ทำร้าย แต่เป็นหุ้นส่วนคนอื่น แจงที่น้ำหวานถอนหุ้นคิดว่าไม่เกี่ยวกับการที่ตนรู้จักกับ ''หนิง-ปณิตา'' คู่กรณีที่ไฮโซน้ำหวานเคยมีเรื่องแต่อย่างใด
''ในส่วนตัวผม ไม่ได้ถูกขู่ทำร้ายเอาชีวิตจากทางคุณพ่อน้ำหวานเป็นการส่วนตัวนะครับ เรามีคลิปเสียง รามีเอกสารต่างๆ ผมไม่ใช่หุ้นใหญ่ ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอหน้ากัน รู้จักกันครั้งแรกที่คลินิกเพราะเขาเข้ามาถือหุ้น ผมเป็นแค่หุ้นส่วน
เล็กๆ และคุณพ่อของน้ำหวานไม่ได้ขู่ฆ่าผมใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ ผมตกใจมากแต่อาจเป็นเพราะการพาดหัวข่าวเลยทำให้เข้าใจผิดกัน แต่ผมยอมรับว่าผมรู้จักกับ ''หนิง-ปณิตา'' จริง แต่มันไม่ได้เกี่ยวกันอะไรเลย ที่สำคัญไอจีสกินคลินิกผมไม่ได้
เล่น ผมเล่นไอจีผมอย่างเดียว'' กันต์ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ผู้สื่อข่าว ''สยามดารา'' ได้รับ จม.แฟกซ์ เป็นหนังสือชี้แจงจาก นายวรชาติ เพชรนันทวงศ์ คุณพ่อของไฮโซสาวชื่อดัง ''น้ำหวาน'' วรพรรณ พันธุ์คงชื่น ที่ได้ร่อนหนังสือชี้แจงในเรื่อง ''ขอความ
อนุเคราะห์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหุ้นส่วน skin buffet ได้แจ้งสื่อมวลชนจะเปิดแถลงข่าวเรื่องถูก พ่อของ ''น้ำหวาน'' วรพรรณ พันธุ์คงชื่น ขู่ฆ่านั้น ผม ดร.วรชาติ เพชรนันทวงศ์ เป็นบิดาของน้ำหวาน จึงชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
1. น.ส.น้ำหวาน หรือ วรพรรณ พันธุ์คงชื่น ได้ตกลงร่วมทำธุรกิจคลินิกความงามและได้ชำระเงินค่าหุ้นไป 3,000,000 ให้กับ นายเจษฎา นิรมิตวิจิตร หรือ จอร์จ ได้โอนหุ้นมาให้ 30%
2.ต่อมาก็ได้ทราบว่า คลินิกยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ น้ำหวาน และ นายตุลย์ กุลวานิช (นายปอ) สองในผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการที่ต้องการให้เปิดดำเนินกิจการไปก่อนได้รับใบอนุญาต จึงเกรงว่าจะเสียชื่อเสียง
3.อีกทั้งได้มีการขอตรวจสอบการจัดซื้อ แต่ไม่ได้รับการร่วมมือที่ดี ทำให้เกิดข้อสงสัยในการจัดซื้อว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่
4.ในการแถลงข่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หุ้นส่วนได้มีการบังคับหว่านล้อมให้น้ำหวานร่วมแถลงข่าว เพื่อผลประโยชน์การประชาสัมพันธ์บริษัท ทั้งที่ขณะนั้นน้ำหวานยังไม่พร้อม ซึ่งการแถลงข่าวเปิดตัวครั้งแรกทำให้น้ำหวานได้รับ
ความกดดันอย่างยิ่ง
5.เพื่อยุติข้อขัดแย้ง ทั้งในเรื่องของการถือหุ้น การที่คลินิกเปิดทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต น้ำหวานและปอจึงได้ขอลาออกจากรรมการ (ได้เซ็นใบลาออก) จากรรมการแล้ว และขอถอนหุ้น ซึ่งนายเจษฎารับปากว่าจะคืนเงินให้ เป็นเวลาเดือน
เศษแล้วยังไม่ได้รับคืนแต่อย่างใด
6.ส่วนกรณีที่มีข่าวลงว่า กันต์ กันตถาวร จะไปแจ้งความว่าถูกพ่อน้ำหวานขู่ฆ่านั้น ผมขอเรียนว่าผมไม่ได้รู้จักกับนายกันต์ตามที่มีการกล่าวอ้างว่าถูกขู่ทำร้าย ไม่เคยรู้จักชื่อ อาชีพ และไม่เคยพบหรือคุยด้วยแม้แต่ครั้งเดียว จึงไม่สามารถขู่
นายกันต์ได้ จึงคิดว่าเป็นการวางแผนโฆษณาใช้สื่อแบบประหยัดค่าโฆษณามากกว่า
7.เงินลงทุนของน้ำหวานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นไม่จำเป็นต้องขู่ผู้ใด ถ้าคนจะทำจริงๆ คงจะไม่ต้องขู่ให้ระวัง
จึงเรียนชี้แจงมายังสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อขอได้รับความเมตตายุติธรรมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ด้วยความเคารพ นายวรชาติ เพชรนันทวงศ์''
ขอบคุณเนื้อหาข่าวและรูปภาพจาก http://www.siamdara.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น